ขอเชิญชมบล๊อกของเราค่ะ/ครับ และเราก็ขอต้อนรับทุกท่าน

ก่อนชมกรุณาร่วมกันให้อาหารปลาน้อยด้วยนะครับ

วันเสาร์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2553

เซฮาย

สวัสดีครับ หายหน้าหายาไปไหนกันหมดน้อ
แทนแทนแท้น ไปเรียนหนังสือๆๆๆๆๆๆ
ช่วงเวลานี้เป็นช่วงต้นเดือนกันยายน กะลังร้อนๆหนาวๆ
ยังไงก็ดูแลสุขภาพกันด้วยนะครับ
ผมจะเข้ามาทักทายพี่พี่ น้องๆ บรรดาอาจารย์นะครับ
สำหรับช่วงเวลานี้ขอให้ทุกคนมีฟามสุขกันถ้วนหน้า
สวัสดีคร้าบบบบบบบ

วันพุธที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2553

วันที่ 14 สิงหาคม 2553

วันนี้เป็นวันเสาร์ ฉันตื่น 08.30 น. ลุกจากที่นอนไปอาบน้ำ ล้างหน้า แปรงฟัน หลังจากนั้นก็กินข้าว พอกินข้าวเสร็จ ก็เปิด

โทรทัศน์ดูการตูนเรื่อง ก้าวแรกสู่สังเวียน นารุโตะ โคนัน เจ้าหนูยอดนักสืบ หลังจากที่ดูการตูนเสร็จ ก็มาเตรียมตัวไรเรียนพิเศษเคมี ถึง 15.00

ดูคลิป บาสเกตบอลNBA LA Laker vs Olrando Magic ดูจนถึง 15.30 น.

หลังจากนั้นก็ไปที่ห้างสรรพสินค้าเสรีกับเเม่ ไปร้านหนังสือ ซีเอด เพื่อหาสือหนังสือเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์

พอกลับจากซีเอด ฉันก็มาช่วยเเม่ทำกวาดบ้าน เเละรับประทานอาหารเย็นพอรับประทานอาหารเย็นเสร็จ ก็อาบน้ำ เเละก็เปิด
วันที่ 13 สิงหาคม 2553

วันนี้เป็นวันศุกร์ ฉันตื่นนอนเเต่เช้า เก็บที่นอน อาบน้ำ แปรงฟัน ล้างหน้า รับประทานอาหารเช้า เเละไปโรงเรียน

ฉันถึงโรงเรียนประมาณ 7.20 น. พอไปถึงโรงเรียนฉันก็สเเกนลายนิ้วมือ เเละไปหาเพื่อนๆที่โต๊ะประจำกลุ่มของเพื่อนเก่าสมัย ม.ต้น พอเวลา 7.45 ฉันก็ไปเข้าห้องนาฏศิลป์ เพื่อไปซ้อมรำ หลังจากซ้อมเสร็จก็เริ่มเรียนวิชาเเรก

เวลา 11.45 ฉันพักรับประทานอาหารกับเพื่อนๆหลังจากนั้นก็เข้าเรียนวิชาในภาคบ่ายต่อไป

พอเลิกเรียน ก้อซ้อมบาสเกตบอลจนถึง 17.00

17.00น.ฉันกลับจาก รร.มาถึงที่บ้าน พอมาถึงที่บ้านก็อาบน้ำ รับประทานอาหาร เเละทำการบ้านจนถึง 11.50 ก็แปรงฟันเเละเข้านอน
วันที่ 12 สิงหาคม 2553

วันนี้เป็นวันพฤหัสบดี ฉันตื่นนอนเเต่เช้า เก็บที่นอน อาบน้ำ แปรงฟัน ล้างหน้า รับประทานอาหารเช้า เเละไปโรงเรียน

ฉันถึงโรงเรียนประมาณ 7.02 น. พอไปถึงโรงเรียนฉันก็สเเกนลายนิ้วมือ เเละไปหาเพื่อนๆที่โต๊ะประจำกลุ่มของเพื่อนเก่าสมัย ม.ต้น พอเวลา 7.45 ฉันก็ไปเข้าห้องนาฏศิลป์ เพื่อไปซ้อมรำ หลังจากซ้อมเสร็จก็เริ่มเรียนวิชาเเรก

เวลา 11.45 ฉันพักรับประทานอาหารกับเพื่อนๆหลังจากนั้นก็เข้าเรียนวิชาในภาคบ่ายต่อไป

พอเลิกเรียน ก้อซ้อมบาสเกตบอลจนถึง 17.50

17.50น.ฉันกลับจาก รร.มาถึงที่บ้าน พอมาถึงที่บ้านก็อาบน้ำ รับประทานอาหาร เเละทำการบ้านจนถึง 00.00 น.ก็แปรงฟันเเละเข้านอน
วันที่ 11 สิงหาคม 2553

วันนี้เป็นวันพุธ ฉันตื่นนอนเเต่เช้า อาบน้ำ ล้างหน้า แปรงฟัน รับประทานอาหารเช้า เเละขี่่่่รถมอเตอร์ไซไปโรงเรียน

ฉันไปถึงโรงเรียนประมาณ 7.15 น. พอไปถึงฉันกไปสเเกนลายนิ้วมือ เเละไปหาเพื่อนๆที่โต๊ะประจำที่มีเพื่อนๆ

ม.ต้นอยู่ พอเวลา 7.45 น. ฉันก็ไปเข้าห้องนาฏศิลป์เหมือนเดิม พอซ้อมเสร็จ ฉันก้อเข้าเรียนคาบเเรก

เวลา 11.45 น. ฉันก็เลิกพักรับประทานอาหารกับเพื่อนๆหลังจากนั้นก็เข้าเรียนวิชาในภาคบ่ายต่อ

พอเลิกเรียนก้อซ้อมบาสเกตบอลต่อจนถึง 17.50 จึงกลับบ้าน

พอมาถึงบ้านก็กินข้าว อาบน้ำ ทำการบ้าน เเละเข้านอน
วันที่ 10 สิงหาคม 2553

วันนี้เป็นวันอังคาร ฉันตื่นนอนเเต่เช้า อาบน้ำ ล้างหน้า แปรงฟัน รับประทานอาหารเช้า เเละขี่่่่รถมอเตอร์ไซไปโรงเรียน

ฉันไปถึงโรงเรียนประมาณ 7.15 น. พอไปถึงฉันกไปสเเกนลายนิ้วมือ เเละไปหาเพื่อนๆที่โต๊ะประจำที่มีเพื่อนๆ ม.ต้นอยู่ พอเวลา 7.45 น. ฉันก็ไปเข้าห้องนาฏศิลป์เหมือนเดิม พอซ้อมเสร็จ ฉันก้อเข้าเรียนคาบเเรก

พอเลิกเรียนก้อซ้อมบาสเกตบอลต่อจนถึง 17.50 จึงกลับบ้าน พอมาถึงบ้านก็กินข้าว อาบน้ำ ทำการบ้าน เเละเข้านอน

วันที่ 9 สิงหาคม 2553

วันนี้เป็นวันจันทร์ ฉันตื่นนอนเเต่เช้า เก็บที่นอน อาบน้ำ แปรงฟัน ล้างหน้า รับประทานอาหารเช้า เเละไปโรงเรียน

ฉันถึงโรงเรียนประมาณ 7.02 น. พอไปถึงโรงเรียนฉันก็สเเกนลายนิ้วมือ เเละไปหาเพื่อนๆที่โต๊ะประจำกลุ่มของเพื่อนเก่าสมัย ม.ต้น พอเวลา 7.45 ฉันก็ไปเข้าห้องนาฏศิลป์ เพื่อไปซ้อมรำ หลังจากซ้อมเสร็จก็เริ่มเรียนวิชาเเรก

เวลา 11.45 ฉันพักรับประทานอาหารกับเพื่อนๆหลังจากนั้นก็เข้าเรียนวิชาในภาคบ่ายต่อไป

พอเลิกเรียน ฉันไปตรวจงานเคมีกับเพื่อนๆพอตรวจเสร็จก็ ซ้อมบาสเกตบอลจนถึง 17.50

17.50น.ฉันกลับจาก รร.มาถึงที่บ้าน พอมาถึงที่บ้านก็อาบน้ำ รับประทานอาหาร เเละทำการบ้านจนถึง 00.00 น.ก็แปรงฟันเเละเข้านอน
วันที่ 8 สิงหาคม 2553

วันนี้เป็นวันอาทิตย์ ฉันตื่น 08.30 น. ลุกจากที่นอนไปอาบน้ำ ล้างหน้า แปรงฟัน หลังจากนั้นก็กินข้าว พอกินข้าวเสร็จ ก็เปิดโทรทัศน์ดูการตูนเรื่อง ก้าวแรกสู่สังเวียน นารุโตะ โคนัน เจ้าหนูยอดนักสืบ หลังจากที่ดูการตูนเสร็จ ก็มาเตรียมตัวไรเรียนพิเศษเคมี ถึง 15.00

ดูคลิป บาสเกตบอลNBA LA Laker vs Hoston Rocket ดูจนถึง 17.30 น.

หลังจากนั้นก็ไปที่ห้างสรรพสินค้าเสรี ไปร้านหนังสือ ซีเอด เพื่อหาสือหนังสือเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์

พอกลับจากซีเอด ฉันก็มาช่วยเเม่ทำกวาดบ้าน เเละรับประทานอาหารเย็นพอรับประทานอาหารเย็นเสร็จ ก็อาบน้ำ เเละก็เปิด

คอมเล่นเกม Freestyle Streetbasketball ประมาณ5ทุ่มกว่าๆฉันจึงเข้านอน
วันที่ 7 สิงหาคม 2553

วันนี้เป็นวันเสาร์ ฉันตื่น 08.30 น. ลุกจากที่นอนไปอาบน้ำ ล้างหน้า แปรงฟัน หลังจากนั้นก็กินข้าว พอกินข้าวเสร็จ ก็เปิด

โทรทัศน์ดูการตูนเรื่อง ก้าวแรกสู่สังเวียน นารุโตะ โคนัน เจ้าหนูยอดนักสืบ หลังจากที่ดูการตูนเสร็จ ก็มาเตรียมตัวไรเรียนพิเศษเคมี ถึง 15.00

ดูคลิป บาสเกตบอลNBA LA Laker vs Olrando Magic ดูจนถึง 15.30 น.

หลังจากนั้นก็ไปที่ห้างสรรพสินค้าเสรีกับเเม่ ไปร้านหนังสือ ซีเอด เพื่อหาสือหนังสือเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์

พอกลับจากซีเอด ฉันก็มาช่วยเเม่ทำกวาดบ้าน เเละรับประทานอาหารเย็นพอรับประทานอาหารเย็นเสร็จ ก็อาบน้ำ เเละก็เปิด

คอมเล่นเกม Freestyle Streetbasketball ประมาณ5ทุ่มกว่าๆฉันจึงเข้านอน
วันที่ 6 สิงหาคม 2553

วันนี้เป็นวันศุกร์ ฉันตื่นนอนเเต่เช้า เก็บที่นอน อาบน้ำ แปรงฟัน ล้างหน้า รับประทานอาหารเช้า เเละไปโรงเรียน

ฉันถึงโรงเรียนประมาณ 7.20 น. พอไปถึงโรงเรียนฉันก็สเเกนลายนิ้วมือ เเละไปหาเพื่อนๆที่โต๊ะประจำกลุ่มของเพื่อนเก่าสมัย ม.ต้น พอเวลา 7.45 ฉันก็ไปเข้าห้องนาฏศิลป์ เพื่อไปซ้อมรำ หลังจากซ้อมเสร็จก็เริ่มเรียนวิชาเเรก

เวลา 11.45 ฉันพักรับประทานอาหารกับเพื่อนๆหลังจากนั้นก็เข้าเรียนวิชาในภาคบ่ายต่อไป

พอเลิกเรียน ก้อซ้อมบาสเกตบอลจนถึง 17.00

17.00น.ฉันกลับจาก รร.มาถึงที่บ้าน พอมาถึงที่บ้านก็อาบน้ำ รับประทานอาหาร เเละทำการบ้านจนถึง 11.50 ก็แปรงฟันเเละเข้านอน
วันที่ 5 สิงหาคม 2553

วันนี้เป็นวันพฤหัสบดี ฉันตื่นนอนเเต่เช้า เก็บที่นอน อาบน้ำ แปรงฟัน ล้างหน้า รับประทานอาหารเช้า เเละไปโรงเรียน

ฉันถึงโรงเรียนประมาณ 7.02 น. พอไปถึงโรงเรียนฉันก็สเเกนลายนิ้วมือ เเละไปหาเพื่อนๆที่โต๊ะประจำกลุ่มของเพื่อนเก่าสมัย ม.ต้น พอเวลา 7.45 ฉันก็ไปเข้าห้องนาฏศิลป์ เพื่อไปซ้อมรำ หลังจากซ้อมเสร็จก็เริ่มเรียนวิชาเเรก

เวลา 11.45 ฉันพักรับประทานอาหารกับเพื่อนๆหลังจากนั้นก็เข้าเรียนวิชาในภาคบ่ายต่อไป

พอเลิกเรียน ก้อซ้อมบาสเกตบอลจนถึง 17.50

17.50น.ฉันกลับจาก รร.มาถึงที่บ้าน พอมาถึงที่บ้านก็อาบน้ำ รับประทานอาหาร เเละทำการบ้านจนถึง 00.00 น.ก็แปรงฟันเเละเข้านอน
วันที่ 4 สิงหาคม 2553

วันนี้เป็นวันพุธ ฉันตื่นนอนเเต่เช้า อาบน้ำ ล้างหน้า แปรงฟัน รับประทานอาหารเช้า เเละขี่่่่รถมอเตอร์ไซไปโรงเรียน

ฉันไปถึงโรงเรียนประมาณ 7.15 น. พอไปถึงฉันกไปสเเกนลายนิ้วมือ เเละไปหาเพื่อนๆที่โต๊ะประจำที่มีเพื่อนๆ ม.ต้นอยู่ พอเวลา 7.45 น. ฉันก็ไปเข้าห้องนาฏศิลป์เหมือนเดิม พอซ้อมเสร็จ ฉันก้อเข้าเรียนคาบเเรก

เวลา 11.45 น. ฉันก็เลิกพักรับประทานอาหารกับเพื่อนๆหลังจากนั้นก็เข้าเรียนวิชาในภาคบ่ายต่อ

พอเลิกเรียนก้อซ้อมบาสเกตบอลต่อจนถึง 17.50 จึงกลับบ้าน พอมาถึงบ้านก็กินข้าว อาบน้ำ ทำการบ้าน เเละเข้านอน
วันที่ 3 สิงหาคม 2553

วันนี้เป็นวันอังคาร ฉันตื่นนอนเเต่เช้า อาบน้ำ ล้างหน้า แปรงฟัน รับประทานอาหารเช้า เเละขี่่่่รถมอเตอร์ไซไปโรงเรียน

ฉันไปถึงโรงเรียนประมาณ 7.15 น. พอไปถึงฉันกไปสเเกนลายนิ้วมือ เเละไปหาเพื่อนๆที่โต๊ะประจำที่มีเพื่อนๆ ม.ต้นอยู่ พอเวลา 7.45 น. ฉันก็ไปเข้าห้องนาฏศิลป์เหมือนเดิม พอซ้อมเสร็จ ฉันก้อเข้าเรียนคาบเเรก

พอเลิกเรียนก้อซ้อมบาสเกตบอลต่อจนถึง 17.50 จึงกลับบ้าน พอมาถึงบ้านก็กินข้าว อาบน้ำ ทำการบ้าน เเละเข้านอน

วันที่ 2 สิงหาคม 2553
วันนี้เป็นวันจันทร์ ฉันตื่นนอนเเต่เช้า เก็บที่นอน อาบน้ำ แปรงฟัน ล้างหน้า รับประทานอาหารเช้า เเละไปโรงเรียน

ฉันถึงโรงเรียนประมาณ 7.02 น. พอไปถึงโรงเรียนฉันก็สเเกนลายนิ้วมือ เเละไปหาเพื่อนๆที่โต๊ะประจำกลุ่มของเพื่อนเก่าสมัย ม.ต้น พอเวลา 7.45 ฉันก็ไปเข้าห้องนาฏศิลป์ เพื่อไปซ้อมรำ หลังจากซ้อมเสร็จก็เริ่มเรียนวิชาเเรก

เวลา 11.45 ฉันพักรับประทานอาหารกับเพื่อนๆหลังจากนั้นก็เข้าเรียนวิชาในภาคบ่ายต่อไป

พอเลิกเรียน ก้อซ้อมบาสเกตบอลจนถึง 17.00

17.00น.ฉันกลับจาก รร.มาถึงที่บ้าน พอมาถึงที่บ้านก็อาบน้ำ รับประทานอาหาร เเละทำการบ้านจนถึง 00.30 น.ก็แปรงฟันเเละเข้านอน

งานวิทยาศาสตร์-โรงเรียนลำปางกัลยาณี

วันนี้ทางโรงเรียนได้จัดกิจกรรมวันวิทยาศาสตร์ภาคเช้า สนุกมากๆ มีทั้งละครเกี่ยวกับปัญหาสภาวะโลกร้อน เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ และเกมส์อีกหลายๆอย่าง หลังเปิดงาน ก็มีอาจารย์สาระวิทยาศาสตร์มาแนะนำเรื่องการเรียนต่อสายวิทย์ แนะนำการไปเรียนต่อต่างประเทศ และมีพี่พี่อีกมากมายที่คอยให้คำปรึกษา หลังจากเกือบจบงาน ก็มีละครเรื่อง "สิ่งเล็กๆที่เรียกว่าอิเล็กตรอน" มาแสดงให้ดู นักแสดงไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นนักแสดงของห้อง 4/11 4/12 4/13 4/14 และอีกมากมายมาร่วมแสดงละครเวที เฮ้อ น่าเสียดายี่ไม่ได้ไปดูกับตา แต่ขอยืนยันว่าสนุกมากๆ มีความรู้ทางวิทยาศาสตร์มาเกี่ยวเล็กเกี่ยวน้อย แต่โดยรวมเเล้วสนุก ถ้ามีโอกาศได้ดูอีกสักครั้ง พวกเราจะก๊อบลง บล๊อกนี้อย่างแน่นอน ยังไงก็ขอให้ทุกท่านติดตาม และให้กำลังใจด้วยนะครับ สำหรับบล๊อกนี้ต้องขอหยุดพิมแปปนึง -- -- ไปล่ะ บะบายเพื่อนๆทุกโคนนนนนน

วันอังคารที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2553

school

friend--teacher--tree--table--chair--Blackboard--pencil--pen--paper--eraser--stand in line--fan--room--air--window--door--sing--song--talk--walk--work--study--food--water--eat-- drink--play--games--computer--Library--English--math-- Sciences--thai--read--write
--ice-cream--book--backpack--man--gril--woman--dog--cat--ant--rat--white--green--black --yellow--pink--blue--orange--people
ขณะนี้เวลา 23.16 น.
วันอังคารที่ 17 สิงหาคม พ.ศ.2553

วันจันทร์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2553

อาจารย์ที่ดี...ควรจะ

การเป็นอาจารย์ที่ดีควรจะ
1.ดุนักเรียน 2.สั่งการบ้านเยอะๆ
3.ตัดคะแนนบ่อย 4.ทำหน้าโหด
5.มีบทลงโทษ 6.เจ้าระเบียบ
7.สอนเร็ว 8.เข้มทุกตาราง
9.บีบลูกไก่ที่อยู่ในกำมือให้แน่นๆ
............
..........
10.รักนักเรียนให้มากๆ เพราะยังไง นักเรียนก็รักและเคารพอาจารย์ค่ะ/ครับ

คำศัพท์

purpose-วัตถุประสงค์ utmost-สูงสุด emphasize-เน้น describes-อธิบาย
embarassing-อึดอัด advantage-การได้เปรียบ ashamed-ละอายใจ
nervous-ประสาท,หงุดหงิด comfortable-สบายใจ permission-การอนุญาต
company-บริษัทิ services-การบริการ introduced-แนะนำ look-มองดู
ordinary-ธรรมดา portable-แบบพกพา transported-การชนส่ง
contrast-ตรงกันข้าม readily-อย่างง่ายดาย attractive-ที่ดึงดูด
variety -หลากหลาย classic-คลาสสิก measuring-การวัด
wide-กว้าง FIAT-ค่าพิพากษา triumph-ยินยอม reflect-สะท้อน
original-ต้นแบบ legendary-ตำนาน options-ตัวเลือก
customize-ปรับแต่ง became-กลายเป็น automotive-รถยนต์

วันอาทิตย์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ทักษะการเต้นบี-บอย


ก่อนอื่น ก่อนจะเต้นต้อง วอร์มก่อนคือ แฮนสแตน หรือหกสูง ให้ได้อย่างต่ำ 20 วินาทีดึงแขน 20 ครั้ง แล้วก็ซิดอัพ 20 ครั้ง ก่อนจะเต้นต้องวิ่งซักประมาณ 500 เมตรเป็นอย่าต่ำบี-บอยจะมีสี่สายด้วยกัน คือ

1. สายหกสูง 2. สาย ป๊อบปิ้ง 3. สายมูฟ 4. สายทั่วไปคือแปรคแด๊น

สายหกสูงคือ เต้นประยุคท่าแฮนสแตนเป็นท่าโพสที่สวยงาม น้ำหนักที่ควรจะไม่เกินคืออย่าเกิน 55 เพราะจะยากมากๆในการโพส ท่านี้อาจทำให้กล้ามขึ้นสาย

ป๊อบปิ้งคือ การเต้นแบบลื่นไหล เป็นท่วงท่าสวยงาม เพมาะสำหรับผู้ชายรูปร่างผอม

สายมูฟคือ การใช้ร่ายกายในท่าทางต่างๆบนอากาศคือ เล่นนำหนักตัวนั่นเองการเอาทุกท่าทางมาผสมผสานกัน สายนี้นำหนักไม่ควรเกิด60 กิโล เพราะถ้าหนักมากกว่านี้คุณจะทำไม่ได้เลย

สายทั่วไปคือแบรคแด๊น การเต้นแบบเบรกๆในเพลงฮิพฮอพนั่นเอง คุณสามารถคิดท่าได้เองเพราะท่าของบี-บอยมีไม่จำกัดเลย มีเป็นร้อยๆท่า สายนี้ไม่จำกัดนำหนัก ส่วนสูง ไม่จำกัดหน้าตา

ทุกคนสามารถนำไปใช้ในการเต้นบี-บอยได้ครับ

ขนมไทยฝอยทอง

ขนมไทยอีกชนิดหนึ่งที่มีประวัติอันยาวนาน เกิดขึ้นในรัชสมัย
สมเด็จพระนารายณ์มหาราช มีชาวโปรตุเกสนำสูตรขนมฝอยทองมาเผยแพร่
ให้แก่คนไทย ซึ่งตามปกติขนมไทยแท้ๆจะไม่เอาไข่เป็นส่วนผสมในการทำ ขนมกันนัก ส่วนใหญ่จะเป็น แป้ง กะทิ น้ำตาล มะพร้าวมากกว่าอย่างอื่น
เมื่อชาวโปรตุเกสเข้ามาค้าขายกับคนไทยในยุคนั้นก็จะพาแม่บ้านมาด้วย
เลยได้สอนการทำฝอยทองให้แก่คนไทยจนเป็นที่ถูกอกถูกใจทำกินจนถึงปัจจุบัน


ส่วนผสม
1.น้ำเชื่อม 2.ไข่เป็ด 3.น้ำตาลทราย 4.น้ำค้างไข่ 5.น้ำลอยดอกมะลิ 6.ไข่ไก่
วิธีทำ
1. น้ำตาลทราย น้ำ ตั้งไฟพอเดือดน้ำตาลละลาย
2. ยกลงกรองด้วยผ้าขาวบาง ตั้งไฟเคี่ยวต่อ
3. ให้น้ำเชื่อมมีลักษณะไม่ข้นหรือใสเกินไป เหมาะสำหรับโรยฝอยทอง
4. ตอกไข่ แยกไข่ขาวออกใช้แต่ไข่แดง และเก็บน้ำไข่ขาวที่ใสไม่เป็นลิ่ม
เรียกน้ำค้างไข่
5. นำไข่แดงใส่ผ้าขาวบางรีดเยื่อไข่ออก ผสมไข่แดงกับน้ำค้างไข่ตามส่วน
คนให้เข้ากัน
6. เตรียมกระทะทองใส่น้ำเชื่อมเดือด ๆ ไว้ ทำกรวยด้วยใบตอง
หรือใช้กรวยโลหะใส่
7.ไข่แดงโรยในน้ำเชื่อมเดือด ๆ ไปรอบ ๆ ประมาณ 20-30 รอบ
เส้นไข่สุกใช้ไม้แหลม
8. สอยขึ้นจากน้ำเชื่อม พับเป็นแพ อบด้วยควันเทียนหลังจากเย็นแล้ว

การวิ่ง


ประโยชน์ของการวิ่งเหมือนกับการเดินซึ่งมีผลดีต่อสุขภาพกาย หัวใจ กล้ามเนื้อแข็งแรง ลดความเครียด และยังมีผลป้องกันโรคกระดูกพรุน โรคหัวใจ การวิ่งสามารถทำได้คนเดียว ทำได้ทุกแห่งแต่จะต้องมีการฝึกฝน
การวิ่งจะเผาผลาญพลังงานมากกว่าการเดินประมาณว่าคนที่มีน้ำหนัก 70 กิโลกรัมจะใช้พลังงานไป 12.5 กิโลแคลอรีทุกหนึ่งนาทีที่วิ่ง คนที่นำหนักมากจะใช้พลังงานในการวิ่งมากกว่าน้ำหนักน้อย

ประโยชน์ของการวิ่ง
ประโยชน์ของการวิ่งจะเหมือนกับการเดินออกกำลังกาย แต่ข้อดีของการออกกำลังกายคือใช้เวลาน้อยกว่าการวิ่งและมีผลดีต่อหัวใจมากกว่าการเดิน ข้อเสียของการวิ่งเมื่อเทียบกับการเดินคือมีอาการปวดกล้ามเนื้อและปวดข้อได้บ่อยกว่าการเดิน

วันเสาร์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2553

อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน

เนื่องด้วยวันนี้ผมได้ไปเที่ยวที่น้ำตกแจ้ซ้อน ผมจะอธิบายคร่าวๆเกี่ยวกับที่นี่นะครับ
อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่อำเภอเมืองปาน อำเภอแจ้ห่ม อำเภอวังเหนือ และอำเภอเมือง จังหวัดลำปาง ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของจังหวัด มีสภาพป่าอันอุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร มีสัตว์ป่านานาชนิด และมีทางธรรมชาติที่สวยงามหลายแห่ง เช่น น้ำตกแอ่งน้ำอุ่น บ่อน้ำพุร้อน ซึ่งสามารถเป็นหลักฐานหนึ่งที่แสดงว่าใต้พื้นโลกเรายังมีความร้อนระอุอยู่ อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดลำปาง
ดังนั้นผมขอเชิญชวนพี่พี่น้องๆได้ไปเที่ยวที่อุทยานแห่งนี้ครับ
เพราะเป็นแหล่งธรรมชาติที่สวยงามที่สุดในลำปางล้วล่ะครับ ^^

โทษของอินเตอร์เน็ตที่ควรระวัง

โทษเฉพาะที่เป็นภัยต่อเด็กมีอยู่ 7 ประการ บนอินเทอร์เน็ตสามารถจำแนกออกได้ดังนี้
1. การแพร่สื่อลามก มีทั้งที่เผยแพร่ภาพลามกอนาจาร ภาพการสมสู่ ภาพตัดต่อลามก
2. การล่อลวง โดยปล่อยให้เด็กและเยาวชนเข้าไปพูดคุยกันใน Chat จนเกิดการล่อลวงนัดหมายไปข่มขืนหรือทำในสิ่งที่เลวร้าย
3. การค้าประเวณี มีการโฆษณาเพื่อขายบริการ รวมทั้งชักชวนให้เข้ามาสมัครขายบริการ
4. การขายสินค้าอันตราย มีตั้งแต่ยาสลบยาปลุกเซ็กซ์ ปืน เครื่องช็อตไฟฟ้า
5. การเผยแพร่การทำระเบิด โดยอธิบายขั้นตอนการทำอย่างละเอียด
6. การพนัน มีให้เข้าไปเล่นได้ในหลายรูปแบบ
7. การเล่นเกม มีทั้งเกมที่รุนแรงไล่ฆ่าฟันและเกมละเมิดทางเพศ

ต้นกำเนิดของการปลูกต้นยางพาราในประเทศไทย

การปลูกยางในประเทศไทยไม่มีการบันทึกเป็นหลักฐานที่แน่นอน แต่คาดว่าน่าจะเริ่มมีการปลูกในช่วงประมาณปี พ.ศ. 2442-2444 ซึ่งพระยารัษฏานุประดิษฐ์ มหิศรภักดี หรือ คอซิมบี้ ณ ระนอง เจ้าเมืองตรังในขณะนั้น ได้นำเมล็ดยางพารามาปลูกที่อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง เป็นครั้งแรก ซึ่งชาวบ้านเรียกต้นยางชุดแรกนี้ว่า "ต้นยางเทศา" และต่อมาได้มีการขยายพันธ์ยางมาปลูกในบริเวณจังหวัดตรัง และนราธิวาส ในปี พ.ศ. 2454 ได้มีการนำพันธุ์ยางมาปลูกในจังหวัดจันทบุรี ซึ่งเป็นภาคตะวันออกของประเทศไทย โดยหลวงราชไมตรี หรือ ปูม ปุณศรี เป็นผู้นำพันธุ์ยางมาปลูก และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้มีการขยายพันธุ์ปลูกยางพารา ไปทั่วทั้ง 14 จังหวัด ในภาคใต้ และ 3 จังหวัดในภาคตะวันออก นอกจากนี้ยังมีการขยายพันธุ์ยางมาปลูกในภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2534 เป็นต้นมา ยางพาราก็กลายเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศไทย และมีการผลิตเป็นอันดับหนึ่งของโลก

ตำนานกุหลาบ


กุหลาบเป็นดอกไม้ที่นิยมปลูกไว้ชื่นชมมาแต่โบราณ ประมาณกันว่ากุหลาบเกิดขึ้นเมื่อกว่า 70 ล้านปีมาแล้ว เคยมีการค้นพบฟอสซิลของกุหลาบใน รัฐโคโลราโด และ รัฐโอเรกอน ประเทศสหรัฐอเมริกา และได้พิสูจน์ว่ากุหลาบป่าเป็นพืชที่มีอายุถึง 40 ล้านปี แต่กุหลาบป่าสมัยโลกล้านปีนี้ มีรูปร่างหน้าตาไม่เหมือนกุหลาบสมัยนี้ เนื่องจากมนุษย์ได้นำเอากุหลาบป่ามาปลูกและผสมพันธุ์ ขยายพันธุ์เป็นพันธุ์ต่างๆ มากมาย
ความจริงแล้วกำเนิดของกุหลาบหรือกุหลาบป่านี้มีเฉพาะในแถบบริเวณเหนือเส้นศูนย์สูตรของโลกเท่านั้น คือกำเนิดในภาคกลางของทวีปเอเชีย แล้วแพร่ขยายพันธุ์ไปตลอดซีกโลกเหนือ ไม่ว่าจะเป็นแถบที่มีอากาศหนาวจัดอย่าง อาร์กติก อลาสก้า ไซบีเรีย หรือแถบอากาศร้อนอย่าง อินเดีย แอฟริกาเหนือ แต่ในบริเวณแถบใต้เส้นศูนย์สูตรอย่างทวีปออสเตรเลีย หรือเกาะต่างๆ ในมหาสมุทรรวมทั้งแอฟริกาใต้ ไม่เคยมีปรากฏว่ามีกุหลาบป่าเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติเลย

ความรู้เกี่ยวกับภูมิปัญญา

ภูมิปัญญาไทย ตรงกับศัพท์ภาษาอังกฤษว่า Wisdom หมายถึง ความรู้ความสามารถ วิธีการผลงานที่คนไทยได้ค้นคว้า รวบรวม และจัดเป็นความรู้ ถ่ายทอด ปรับปรุง จากคนรุ่นหนึ่งมาสู่คนอีกรุ่นหนึ่ง จนเกิดผลิตผลที่ดี งดงาม มีคุณค่า มีประโยชน์ สามารถนำมาแก้ปัญหาและพัฒนาวิถีชีวิตได้แต่ละหมู่บ้าน แต่ละชุมชนไทย ล้วนมีการทำมาหากินที่สอดคล้องกับภูมิประเทศ มีผู้นำที่มีความรู้ มีฝีมือทางช่าง สามารถคิดประดิษฐ์ ตัดสินใจแก้ปัญหาของชาวบ้านได้ ผู้นำเหล่านี้ เรียกว่า ปราชญ์ชาวบ้าน หรือผู้ทรงภูมิปัญญาไทย

ประวัติของนายกันติ์ศักดิ์ ทรัพย์พ่วง

ชื่อ นายกันณ์ศักดิ์ ทรัพย์พ่วง ชื่อเล่น หนุ่ย อายุ 15 ปี
สถาณศึกษาโรงเรียนลำปางกัลยาณี ม.4/11
งานอดิเรก เล่นคอม เล่นบาส
เพื่อนสนิท ปั่น ปีป กาแฟ ข้าวตอก พลอย ฟิว เน็ต ฟ้า(แก๊งBaByทั้งหมด) ละห้อง4/11ทุกคน
เพื่อนเก๊าเก่าที่สนิท บอย โย่ ตี้เล็ก ฟิมล์ หนึ่ง(ญ) ใหม่ ลูกปลา มีน โบ ละเพื่อนๆ3/11เก่า
ชอบสีเหลือง ขาว
เพื่อนสนิท ทั้งห้อง 4/11
อาหารที่ชอบ ส้มตำ
อุปนิสัย เป็นคนดีของสังคม
กีฬาที่ชอบ บาสเกตบอล
คติ เรียนไม่ดี แต่ คะแนนเพียบ!!!
สุดท้ายมีอะไรจะปรึกษาคนหล่อ มาที่ E-mail
viruts2537@hotmail.com
บันทึกกิจกรรมประจำวัน


วันที่ 1 สิงหาคม 2553

วันนี้เป็นวันอาทิตย์ ฉันตื่น 10.30 น. ลุกจากที่นอนไปอาบน้ำ ล้างหน้า แปรงฟัน หลังจากนั้นก็กินข้าว พอกินข้าวเสร็จ ก็เปิดโทรทัศน์ดูการตูนเรื่อง ก้าวแรกสู่สังเวียน นารุโตะ โคนัน เจ้าหนูยอดนักสืบ หลังจากที่ดูการตูนเสร็จ ก็มาเปิดคอมพิวตอร์ ดูคลิป บาสเกตบอลNBA LA Laker vs Olrando Magic ดูจนถึง 15.30 น.
หลังจากนั้นก็ไปที่ห้างสรรพสินค้าเสรีกับเเม่ ไปร้านหนังสือ ซีเอด เพื่อหาสือหนังสือเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
พอกลับจากซีเอด ฉันก็มาช่วยเเม่ทำกวาดบ้าน เเละรับประทานอาหารเย็นพอรับประทานอาหารเย็นเสร็จ ก็อาบน้ำ เเละก็เปิดคอมเล่นเกม Freestyle Streetbasketball ประมาณ4ทุ่มกว่าๆฉันจึงเข้านอน

หลักการแก้ไขปัญหาคอมพิวเตอร์


1.พยายามหาสาเหตุว่าเป็นเพราะส่วนประกอบใดของคอมพิวเตอร์โดยสังเกตุอาการที่เกิดขึ้นทุกครั้งที่คอมพิวเตอร์เกิดอาการผิดปกติหรือทำงานผิดพลาดคอมพิวเตอร์ จะแสดงข้อความที่จะบอกเราถึงสาเหตุที่เกิดขึ้น Drive A is not Access, Can not Fine this file,invalid Drive ข้อความเหล่านี้จะบอกถึงสถานะที่เกิดขึ้นขณะนั้น

2.เมื่อมีสมมุติฐานในเบื้องต้นแล้ว สิ่งสำคัญที่จะต้องทำต่อมาก็คือ เราต้องพยายามพิสูจน์สมมุติฐานของเรา หรือพูดง่ายๆก็คือ ลองแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นดูก่อนโดยสังเกตูจากข้อความที่แจ้งหรืออาการที่เกิดขึ้นนั้น โดยในการลองผิดลองถูกนั้นเราจะต้องพยายามจดจำไว้เสมอว่าเราได้ทำอะไรไปบ้าง

3.เมื่อเรารู้เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าอาการเสียดังกล่าวเกิดขึ้นจากสาเหตุอะไร เราจะต้องพยายามศึกษษการทำงานเบื้องต้นของอุปกรณ์เหล่านั้นเสียก่อน เช่น ถ้าเกิดขึ้นจากฮาร์ดดิสก์ เราก็ควรจะรู้จักกับฮาร์ดดิสก์บ้างเล็กน้อย เป็นต้นว่า อะไรคือ Partition ทำไมต้องทำการแบ่งพาร์ติชัน มีความสำคัญอย่างไร

4.ลงมือจัดการกับอาการเสียเหล่านั้นได้เลย โดยจะต้องพยายามจดจำสิ่งที่เราทำลงไปได้เสมอว่าทำอะไรลงไปบ้าง สำหรับการซ่อมอาการเสียในเบื้องต้นที่พบบ่อยๆ อาจแก้ไขเองได้ แต่ในอาการที่หนัก อาจส่งให้กับช่างผู้เชี่ยวชาญ

5.หลังจากที่เราซ่อมในส่วนที่เราคิดว่าเสียหายจนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนสุดท้ายที่เราจำเป็นที่จะต้องทำ นั่นก็คือ การตรวจสอบการทำงานหลังการซ่อมเสร็จอแล้วนั่นเอง ถ้าหากว่าเราซ่อมได้ผล อาการเสียที่ว่าคงจะดีขึ้น

วันศุกร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2553

Kuroshitsuji พ่อบ้านปีศาจ

นี่คือการ์ตูนญี่ปุ่นที่กำลังนิยมในหมู่วัยเด็กถึงวัยรุ่น
คือเรื่อง Kuroshitsuji พ่อบ้านปีศาจ ตอนนี้มี 2ภาค
ภาคที่ 2 สามารถกดคลิกได้ที่
http://video.mthai.com/player.php?id=18M1278401438M0
ส่วนภาคแรกนั้นจะหามาให้นะค่ะ เพราะตอนนี้มีปัญหาเกี่ยวกับเวปของภาคแรกน่ะค่ะ
ยังไงก็ขออภัยในความไม่พร้อมด้วยนะค่ะ
โปรดติดตามตอนต่อไปนะค่ะ
สวัสดีค่ะ
อยากให้คุณผู้หญิงได้อ่านกัน
วิธีป้องกันตัวเองหากคุณโดนไอ้หื่นลากลงข้างทาง
1. ศิลปะป้องกันตัวต่างๆ ร้อยละเก้าสิบ ผู้หญิงหมดสิทธิ์ใช้คับเพราะคนร้ายจะซุ่มรอทีเผลอคับ ที่โดนบ่อยๆคือล็อคแขนไขว้หลัง มืออุดปากแล้วกระชากหรือลากเข้าข้างทาง ถ้าเตรียมตัวมาดีก็อาจจะมีอาวุธจี้เพื่อไม่ให้เหยื่อขัดขืน แน่นอนว่าน้อยคนที่เห็นมีด ปืนแล้วจะกล้าใช้แท็คติคที่เรียนมา
2. เมื่อโดนลากเข้าข้างทาง คุณก็จะโดนต่อยท้องเพื่อให้จุกจนไม่มีแรงดิ้นและตบปากหรือต่อยหน้าเพื่อให้กลัวเจ็บหรือกึ่งๆหมดสติ จากนั้นถ้าคนร้ายหื่นแบบชาญฉลาดก็จะหาของมาอุดปากคุณไว้ ถ้าโชคร้ายคุณนุ่งกระโปรงมาอาจจะเจอกกน.ตัวเอง ซวยแท้ๆ
3. เมื่อคนร้ายเห็นคุณไม่มีแรงดิ้น ก็จะทำการถลกส่วนล่างคุณออก โดยท่าที่นิยมคือนั่งคร่อมเอว เอาเข่ากดแขนส่วนบนคุณไว้ทำให้ไม่มีแรงมากพอจะผลักแถมยังจุกอยู่อีกตะหาก ฮิๆ
4. จากนั้นเมื่อฐานยิงโล่งโจ้ง คนร้ายก็จะงัดจรวดออกมาเตรียมปฏิบัติการ จังหวะนี้ถ้าคุณโชคดียังมีสติอยู่ให้พยายามเซฟแรงไว้รอข้อต่อไป
5. เมื่อคนร้ายพยายามสอดใส่ ให้คุณรวบรวพลังที่มี"ขมิบ" ไว้ครับ ตะบองแข็งหรือจะสู้แรงโล่เนื้อ คนร้ายก็จะเริ่มเสียสมาธิเพราะจ้องจะลงรูอย่างเดียว ให้คุณอาศัยจังหวะนี้ซึ่งคนร้ายมักจะเผลอลืมกดแขน คว้าลูกป๋องแป๋งเลยคับ โดนลูกเดียวไม่เป็นไร อย่าตกใจปล่อยมือเพื่อกำใหม่ให้โดนสองลูก เดี๋ยวจะหมดโอกาส จากนั้นบีบให้เต็มที่เลยคับ เอาเล็บจิกด้วยยิ่งดี ร้อยทั้งร้อยไม่มีใครคิดจะฆ่าคุณในตอนนี้หรอกคับ รับรองร้องเสียงหลง ลืมทุกสิ่งทุกอย่าง
6. หลังจากนั้น อ๊ะๆ อย่าเพิ่งคิดหนีคับ พิจารณาดูคนร้ายให้ดีก่อน รีบประเมินสถานภาพคนร้ายว่า ที่เราทำลงไปหยุดเขาได้ไหม ผู้หญิงส่วนใหญ่ไม่ตายตอนโดนข่มขืนแต่จะมาตายตอนนี้ละคับ เพราะจะหนีอย่างเดียว ตัวเองก็วิ่งไม่ไหว คนร้ายก็ยังลุกขึ้นมาตามทุบหัวเอาได้ ดังนั้นหากเห็นว่าคนร้ายหมดสภาพแน่ๆและชุมชนอยู่ไม่ไกลจึงค่อยหนีคับ
7. ทีนี้ถ้าคนร้ายแค่เสียจังหวะคืออาจจะลงไปนอนงอก่องอขิงอยู่แป๊บเดียวและมีทีท่าจะลุกขึ้นมา สิ่งที่คุณต้องทำคือ รีบหาอาวุธให้เร็วที่สุดคับ ไม้ ก้อนหิน ปากกา(ใช้เสียบได้) คัตเตอร์ สเปรย์ ปืน ครกที่จะเอาไปจำนำฯลฯ ถ้าไม่มีจริงๆก็ส้นตรีนนี่แหละคับ หวดเข้าไปที่บริเวณต่อไปนี้คับ
- ที่เดิม (ไอ้นั่นแหละคับ) แต่ส่วนใหญ่จะทำไม่ได้เพราะคนร้ายมักจะกุมไว้
- หน้าแข้งหรือกลางแสกหน้า คนตัวโตๆตายเพราะส้นตรีนผู้หญิงๆมีเยอะคับ ยิ่งใส่ส้นสูงด้วย อู๊ย....
- กกหู ขมับ ทุบรัวๆเลยคับ(ไม่แนะนำท้ายทอยหรือคาง โดนยาก)
- ถ้ามีก้อนหินโตๆ ทุบกลางหน้าแข้งเลยครับ รับรองเดี้ยง ร้องสามบ้านแปดบ้าน
- ที่สุดท้าย อาจจะโหดหน่อยแต่ถ้าทำได้ เวิร์คคับ"นิ้วเท้า" โดยเฉพาะนิ้วเล็กๆตั้งแต่นิ้วกลางถึงนิ้วก้อยนี่ละคับ หินทุบผัวะเข้าไป อย่าใจอ่อนคับ เอาให้เละไปเลย ถ้าทำดีคนร้ายอาจจะเจ็บถึงสลบคับ .........จากนั้นรีบจัดเครื่องแต่งกาย คว้าสิ่งของมีค่าพาตัวเองออกไปให้ไวที่สุดคับ กรี๊ดๆกรูรอดแล้ว เจ้าข้าเอ้ย ..............

วันแม่แห่งชาติ3

และแล้ววันนี้ก็มาถึง (13สิงหาคม)
วันนี้ต้องตื่นตี 5 เพราะมันเป็นการเดินทางกลับ และลา พี่สาวคนโต (ทิ้งไว้ที่สมุทรสงครามนี่แหละค่ะ)
หลังจากลาพี่สาวเสร็จ พวกเราก็ต้องออกเดินทางเพื่อนกลับลำปาง
เมื่อผ่านจังหวัดสุพรรณบุรี พวกเราได้แวะเข้าสวนสัตว์สุพรรณบุรีประมาณ 3-4 ชั่วโมง
เราเข้าไปดูพวกสัตว์กินเนื้อ และสัตว์ที่ถูกล่า ทั้งสัตว์บกสัตว์น้ำ เราก็ดูหมด
สนุกมากเลย ได้ดูการแสดงให้เนื้อกับสิงโตด้วย น่ากลัวสุดๆ
และแล้วก็ถึงเวลากลับบ้าน ตลอดทางกลับจะมีสุ้มขายของทะเลตามทาง
จะมีพวกกุ้งเผาเราได้จอดแวะซื้อกุ้ง 1 กิโล เพื่อนนำไปกินที่ร้านอาหารข้างทาง
ถึงแม้ว่าจะเป็นร้านอาหารข้างทาง แต่มันก็มีรสชาติที่อร่อยมาก
ขากลับจากจังหวัดสมุทรสงครามนี้เราได้ใช้เวลาในการกลับ ตั้งแต่ ตี5 ถึงตี 2 (อู้วววว)
มันเป็นการเดินทางที่ยาวนานมาก แต่ขากลับมานี้ไม่น่าเบื่ออย่างตอนแรก
เพราะตลอดทางหนูได้นอนหลับตลอดทาง จึงไม่รู้ว่ารถที่หนูนั่งไปถึงไหน ตื่นมาอีกทีหนูก็ถึงบ้านที่ จ.ลำปาง เเล้ว ในที่สุดหนูก็กลับมาถึง ลำปาง ยังไงซะถ้าให้เลือระหว่างลำปางกับสมุทรสงคราม
หนูขอเลือลำปางนี้กว่าค่ะ เพราะอากาศที่ลำปางเย็มไม่ร้อนจนเกินไปเมื่อเทียบกับสมุทรสงคราม
เพราะที่นั้นอากาศร้อนมากๆ ค่ะ
นี้คือความทรงจำวันแม่ปี 2010 ของหนูค่ะ ขอบคุณนะที่ติดตามเรื่องราวของหนู
~~~~~~~~~~~จบบริบูรณ์~~~~~~~~~~~

วันแม่แห่งชาติ 2

สวัสดีครั้งในภาคต่อนะค่ะ
เมื่อถึงวันแม่แห่งชาติ 12สิงหาคม พวกเราก็ได้เตรียมพร้อมที่จะดำเนิมโปรแกรมเที่ยว
รุ่งเช้าเราได้ออกจากบ้าน ไปเที่ยวทะเล ที่นี่คนค่อนข้างมาก เพราะวันนี้เป็นวันแม่ผู้คนจึงมากเป้นพิเศษ
เราสั่งอาหารทะเลมาฉลองวันแม่ และลากแม่ลงทะเล
เพราะมันเป็นธรรมเนียมของครอบครัว (คือเมื่อถึงวันของใคร คนนั้นจะต้องโดนแกล้ง)
หลังจากที่เล่นน้ำทะเลเราก็ไปซื้อของฝาก ของฝากพวกนี้จะเป็นพวกเครื่องประดับที่ทำมาจากเปลือหอยตามชายหาด วันนี้เป็นวันที่สนุกมาก ถึงแม้ว่าจะต้องใช้เวลานาน
แต่ก็คุ้มค่ามาก ที่คุ้มกับการรอคอย ^^
ตกเย็นเราก็เดินทางกลับบ้านพักผ่อนสัก2ชั่วโมง เราก็ไปออกเดินทางไปตลาดน้ำอัมพวา
ที่นี่มีเรือรับจ้างดูหิ่งห้อยตามริมน้ำ สนุกมาก ที่นี่หิ่งห้อยมีจำนวนมาก และสวยมากๆ ระยิบระยับเยอะแยะ
เราได้เดินเลือกซื้อของใช้ทานอาหารที่ตลาดน้ำนี้ จนเวลาเกือบ 23.30 น. ตลาดใกล้ปิด
พวกเราจำเป็นต้องออกเดินทางกลับบ้าน และพักผ่อนเพื่อออกเดินทางกลับในวันที่ 13สิงหาคม
ถึงแม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่มันคือความทรงจำที่ดีของครอบครัวตลอดไป
โปรดติดตามการเดินทางกลับนะค่ะ

วันแม่แห่งชาติ

สวัสดีทุกท่านที่กำลังดูอยู่
บทความนี้เราขอย้อนไปตั้งแต่วันที่11สิงหา
วันนี้เป็นออกเดินทางจากลำปาง ถึงจ.สมุทรสงคราม วันนี้เป็นวันที่น่าเบื่อมาก เพราะทั้งวันอยู่แต่ในรถ
เราออกเดินทางจากตอนเช้า ประมาณตี 5 ถึงจ.สมุทรสงครามตอน 2ทุ่ม
หลังจากเดินทาง เราได้พาครอบครัวไปทานข้าวแถวตลาดน้ำแม่กลอง
วันนี้เป็นวันที่เหนื่อยมาก แต่ก็ทีความสุขมากเช่นกัน เพราะการมาครั้งนี้ คือได้เจอพี่สาวที่ไม่ได้เจอกันนานถึง 6 เดือน หลังจากทาข้าวเสดเราก็เดินทางกลับบ้านที่จังหวัดสมุทรสงคราม
และพักผ่อนให้เต็มที่ พร้อมจะเริ่มต้นโปรแกรมเที่ยวในวันที่ 12สิงหาคม
โปรดติดตามบล๊อกต่อไป

ประวัติของ น.ส.วีรญา ชัยเรือง

ชื่อ น.ส.วีรญา ชัยเรือง ชื่อเล่น พลอย อายุ15 ปี
ที่อยู่ ต.ต้นธงชัย อ.เมือง จ.ลำปาง
ครอบครัวมี 6 คน และสัตว์เลี้ยงอีก20กว่าตัว
สถาณศึกษาโรงเรียนลำปางกัลยาณี ม.4/11
งานอดิเรก อ่านหนังสือ ออกกำลังกาย เล่นคอมพิวเตอร์
สีที่ชอบ เขียว ดำ
สัตว์เลี้ยง สุนัขพันธุ์บางแก้ว แมวเปอเชียร์
เพื่อนสนิท เฟิร์น ป๊อป เนม
อาหารที่ชอบ ราดหน้าหมูหมัก (แถวตลาดอัศวิน)
อุปนิสัย โผงผาง แต่ความรู้สึก ช้า
ชื่นชอบธรรมชาติมากเป็นพิเศษ
เป็นคนเรียนไม่เก่ง แต่ชอบค้นคว้า (สิ่งสุดท้ายที่ได้จากการค้น คือ ลืม)
วิชาที่ชอบ คณิต เพราะชอบการคำนวณ
วิชาที่เกลียดคือ ภาษาไทย เพราะ เรียนแล้วไม่เข้าหัวสักนิด
สุดท้าย ต้องการสอบถามเพิ่มเติม E-mail
ploypaza@hotmail.com

วันพุธที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2553


ซอฟท์แวร์และภาษาคอมพิวเตอร์

เมื่อมนุษย์ต้องการใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในการทำงาน มนุษย์จะต้องบอกขั้นตอนวิธีการให้คอมพิวเตอร์ทราบ การที่บอกสิ่งที่มนุษย์เข้าใจให้คอมพิวเตอร์รับรู้ และทำงานได้อย่างถูกต้อง จำเป็นต้องมีสื่อกลาง ถ้าเปรียบเทียบกับชีวิตประจำวันแล้ว เรามีภาษาที่ใช้ในการติดต่อซึ่งกันและกัน เช่นเดียวกันถ้ามนุษย์ต้องการจะถ่ายทอดความต้องการให้คอมพิวเตอร์รับรู้และปฏิบัติตาม จะต้องมีสื่อกลางสำหรับการติดต่อเพื่อให้คอมพิวเตอร์รับรู้ เราเรียกสื่อกลางนี้ว่าภาษาคอมพิวเตอร์ เนื่องจากคอมพิวเตอร์ทำงานด้วยสัญญาณทางไฟฟ้า ใช้แทนด้วยตัวเลข 0 และ 1 ได้ ผู้ออกแบบคอมพิวเตอร์ใช้ตัวเลข 0 และ 1 นี้เป็นรหัสแทนคำสั่งในการสั่งงานคอมพิวเตอร์ รหัสแทนข้อมูลและคำสั่งโดยใช้ระบบเลขฐานสองนี้ คอมพิวเตอร์สามารถเข้าใจได้ เราเรียกเลขฐานสองที่ประกอบกันเป็นชุดคำสั่งและใช้สั่งงานคอมพิวเตอร์ว่าภาษาเครื่อง การใช้ภาษาเครื่องนี้ถึงแม้คอมพิวเตอร์จะเข้าใจได้ทันที แต่มนุษย์ผู้ใช้จะมีข้อยุ่งยากมาก เพราะเข้าใจและจดจำได้ยาก จึงมีผู้สร้างภาษาคอมพิวเตอร์ในรูปแบบที่เป็นตัวอักษร เป็นประโยคข้อความ ภาษาในลักษณะดังกล่าวนี้เรียกว่า ภาษาคอมพิวเตอร์ระดับสูง ภาษาระดับสูงมีอยู่มากมาย บางภาษามีความเหมาะสมกับการใช้สั่งงานการคำนวณทางคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ บางภาษามีความเหมาะสมไว้ใช้สั่งงานทางด้านการจัดการข้อมูล ในการทำงานของคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์จะแปลภาษาระดับสูงให้เป็นภาษาเครื่อง ดังนั้นจึงมีผู้พัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์สำหรับแปลภาษาคอมพิวเตอร์ระดับสูงให้เป็นภาษาเครื่อง
โปรแกรมที่ใช้แปลภาษาคอมพิวเตอร์ระดับสูงให้เป็นภาษาเครื่องเรียกว่า คอมไพเลอร์ (compiler) หรืออินเทอร์พรีเตอร์ (interpreter) คอมไพเลอร์ จะทำการแปลโปรแกรมที่เขียนเป็นภาษาระดับสูงทั้งโปรแกรมให้เป็นภาษาเครื่องก่อน แล้วจึงให้คอมพิวเตอร์ทำงานตามภาษาเครื่องนั้น ส่วนอินเทอร์พรีเตอร์ จะทำการแปลทีละคำสั่ง แล้วให้คอมพิวเตอร์ทำตามคำสั่งนั้น เมื่อทำเสร็จแล้วจึงมาทำการแปลคำสั่งลำดับต่อไป ข้อแตกต่างระหว่างคอมไพเลอร์กับอินเทอร์พรีเตอร์จึงอยู่ที่การแปลทั้งโปรแกรมหรือแปลทีละคำสั่ง ตัวแปลภาษาที่รู้จักกันดี เช่น ตัวแปลภาษาเบสิก ตัวแปลภาษาโคบอล
ซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์จึงเป็นส่วนสำคัญที่ควบคุมการทำงานของคอมพิวเตอร์ให้ดำเนินการตามแนวความคิดที่ได้กำหนดไว้ล่วงหน้าแล้ว คอมพิวเตอร์ต้องทำงานตามโปรแกรมเท่านั้น ไม่สามารถทำงานที่นอกเหนือจากที่กำหนดไว้ในโปรแกรม



ส่วนประกอบของกล้องจุลทรรศน์

ฐาน (Base) เป็นส่วนที่ใช้วางบนโต๊ะ ทำหน้าที่รับน้ำหนักทั้งหมดของกล้องจุลทรรศน์ มีรูปร่างสี่เหลี่ยม หรือวงกลม ที่ฐานจะมีปุ่มสำหรับปิดเปิดไฟฟ้า

    แขน (Arm) เป็นส่วนเชื่อมตัวลำกล้องกับฐาน ใช้เป็นที่จับเวลาเคลื่อนย้ายกล้องจุลทรรศน์

    ลำกล้อง (Body tube) เป็นส่วนที่ปลายด้านบนมีเลนส์ตา ส่วนปลายด้านล่างติดกับเลนส์วัตถุ ซึ่งติดกับแผ่นหมุนได้ เพื่อเปลี่ยนเลนส์ขนาดต่าง ๆ ติดอยู่กับจานหมุนที่เรียกว่า Revolving Nosepiece

    ปุ่มปรับภาพหยาบ (Coarse adjustment) ทำหน้าที่ปรับภาพโดยเปลี่ยนระยะโฟกัสของเลนส์ใกล้วัตถุ (เลื่อนลำกล้องหรือแท่นวางวัตถุขึ้นลง) เพื่อทำให้เห็นภาพชัดเจน

    ปุ่มปรับภาพละเอียด (Fine adjustment) ทำหน้าที่ปรับภาพ ทำให้ได้ภาพที่ชัดเจนมากขึ้น

    เลนส์ใกล้วัตถุ (Objective lens) เป็นเลนส์ที่อยู่ใกล้กับแผ่นสไลด์ หรือวัตถุ ปกติติดกับแป้นวงกลมซึ่งมีประมาณ 3-4 อัน แต่ละอันมีกำลังบอกเอาไว้ เช่น x3.2, x4, x10, x40 และ x100 เป็นต้น ภาพที่เกิดจากเลนส์ใกล้วัตถุเป็นภาพจริงหัวกลับ

    เลนส์ใกล้ตา (Eye piece) เป็นเลนส์ที่อยู่บนสุดของลำกล้อง โดยทั่งไปมีกำลังขยาย 10x หรือ 15x ทำหน้าที่ขยายภาพที่ได้จากเลนส์ใกล้วัตถุให้มีขนาดใหญ่ขึ้น ทำให้เกิดภาพที่ตาผู้ศึกษาสามารถมองเห็นได้ โดยภาพที่ได้เป็นภาพเสมือนหัวกลับ

    เลนส์รวมแสง (Condenser) ทำหน้าที่รวมแสงให้เข้มขึ้นเพื่อส่งไปยังวัตถุที่ต้องการศึกษา

    กระจกเงา (Mirror) ทำหน้าที่สะท้อนแสงจากธรรมชาติหรือแสงจากหลอดไฟภายในห้องให้ส่องผ่านวัตถุโดยทั่วไปกระจกเงามี 2 ด้าน ด้านหนึ่งเป็นกระจกเงาเว้า อีกด้านเป็นกระจกเงาระนาบ สำหรับกล้องรุ่นใหม่จะใช้หลอดไฟเป็นแหล่งกำเนิดแสง ซึ่งสะดวกและชัดเจนกว่า

    ไดอะแฟรม (Diaphragm) อยู่ใต้เลนส์รวมแสงทำหน้าที่ปรับปริมาณแสงให้เข้าสู่เลนส์ในปริมาณที่ต้องการ

    แท่นวางวัตถุ (Speciment stage) เป็นแท่นใช้วางแผ่นสไลด์ที่ต้องการศึกษา

    ที่หนีบสไลด์ (Stage clip) ใช้หนีบสไลด์ให้ติดอยู่กับแท่นวางวัตถุ ในกล้องรุ่นใหม่จะมี Mechanical stage แทนเพื่อควบคุมการเลื่อนสไลด์ให้สะดวกยิ่งขึ้น

    แท่นวางวัตถุ (Stage) เป็นแท่นสำหรับวางสไลด์ตัวอย่างที่ต้องการศึกษา มีลักษณะเป็นแท่นสี่เหลี่ยม หรือวงกลมตรงกลางมีรูให้แสงจากหลอดไฟส่องผ่านวัตถุแท่นนี้สามารถเลื่อนขึ้นลงได้ด้านในของแท่นวางวัตถุจะมีคริปสำหรับยึดสไลด์และมีอุปกรณ์ช่วยในการเลื่อนสไลด์ เรียกว่า Mechanical Stage นอกจากนี้ยังมีสเกลบอกตำแหน่งของสไลด์บนแทนวางวัตถุ ทำให้สามารถบอกตำแหน่งของภาพบนสไลด์ได้


วันอังคารที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2553

เรื่องสุขภาพที่ไม่ควรมองข้าม
1. การดื่มน้ำปริมาณมากในเวลาอันรวดเร็วอาจก่อให้เกิดสภาวะน้ำเป็นพิษ เนื่องจากเลือดเจือจาง ร่างกายจึงขับโปแตสเซียมออกจากเซลล์เพื่อปรับสมดุลระหว่างน้ำในเซลล์และนอกเซลล์ ผลที่ตามมาคือเป็นตะคริว กล้ามเนื้อเกร็ง หากเกิดอาการเกร็งที่สมอง หัวใจ หรือปอด จะทำให้ระบบหายใจล้มเหลวและเสียชีวิตได้ แต่ไม่ต้องกังวลจนเกินไป เพราะหากดื่มน้ำทีละเล็กทีละน้อย แม้ดื่มมากกว่าปกติก็ไม่เป็นอันตรายเพราะไตจะขับออกมาเป็นปัสสาวะ และถ้าเมื่อไรมีอาการจุกนั่นแสดงว่าดื่มน้ำมากไป ควรหยุดได้แล้ว

2. การปล่อยให้ตนเองหิวอาจนำไปสู่โรคร้าย เพราะความหิวกระตุ้นร่างกายให้หลั่งฮอร์โมนความเครียด ซึ่งหากเกิดขึ้นเป็นประจำจะทำให้เกิดโรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจหรือเบาหวานได้ ลองควบคุมความหิวด้วยการแบ่งมื้ออาหารจากวันละ 3 มื้อเป็นมื้อเล็กๆ 5-6 มื้อต่อวัน
3. ชา กาแฟ รวมถึงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนไม่เหมาะกับผู้ที่มีอาการปวดหลัง เพราะคาเฟอีนลดการหลั่งสารเอนโดรฟีนซึ่งเป็นสารธรรมชาติที่ร่างกายผลิตขึ้นและมีฤทธิ์ลดอาการปวดตามอวัยวะต่างๆ
4. วิธีง่ายๆในการดูแลสุขภาพคือ หลังจากตื่นนอนทุกเช้า จะดื่มน้ำส้มสายชูที่หมักจากผลแอ๊ปเปิ้ล ผสมกับน้ำผึ้งอย่างละ 1 : 1 ใส่น้ำอุ่นคนให้เข้ากันแล้วค่อยเติมน้ำแข็งลงไปเพื่อให้ทานง่ายและมีรสชาติดีขึ้น ซึ่งวิธีนี้จะไปช่วยการดูดซึมของระบบลำไส้ และการเผาผลาญของร่างกาย แต่โรคบางโรคอาจเกิดจากสุขภาพจิตที่อ่อนแอ ในหนึ่งอาทิตย์จึงควรจะมีวันพักผ่อนอย่างจริงจังหรือทำกิจกรรมที่ผ่อนคลาย เช่น เล่นโยคะ เพื่อฟื้นฟูสุขภาพกายและลดมลภาวะทางจิตใจไปพร้อมๆ กัน
5. การนอนดึกคืนวันศุกร์-เสาร์แล้วตื่นสายในวันเสาร์-อาทิตย์ ทำให้นาฬิกาชีวภาพของร่างกายตั้งเวลาตื่นใหม่ เมื่อถึงวันจันทร์จึงมีอาการอิดเอื้อนไม่อยากตื่น ทั้งยังทำให้ขาดสมาธิในการทำงานหรือเรียนหนังสืออีกด้วย
6. แสงแดดยามเช้าไม่ได้ช่วยให้กระดูกแข็งแรงเท่านั้น แต่การออกกำลังกายกลางแดดในช่วงเวลาดังกล่าวยังช่วยให้ร่างกายผลิตสารเอนโดรฟีน ซึ่งเป็นสารต่อต้านอาการซึมเศร้าตามธรรมชาติอีกด้วย
7. ความเครียดเป็นตัวการทำลายผิวที่ร้ายแรงที่สุด ฉะนั้นเราต้องปรับความคิดใหม่ และใช้ร่างกายเราอย่างทะนุถนอมตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เหมาะสม หาเวลาออกกำลังกายบ้าง และรับประทานอาหารดีๆ
8. แอ๊ปเปิ้ล แตงโม กล้วย กีวี มีประโยชน์ แต่ถ้าคุณรับประทานยาปฏิชีวนะอยู่ควรหลีกเลี่ยงผลไม้เหล่านี้เพราะบูดง่ายในลำไส้ อาจเกิดการอักเสบในระบบทางเดินอาหารได้
9. การไอเรื้อรังอาจเกิดจากการติดเชื้อไวรัส ยาปฏิชีวนะที่แพทย์สั่งเพื่อรักษาอาการหวัดไม่สามารถฆ่าเชื้อไวรัสได้ ให้ใช้วิธีที่สุดแสนธรรมดาแต่ได้ผลมากกว่าคือ ดื่มน้ำบ่อยๆ เพื่อลดเสมหะในทางเดินหายใจ อมยาอมให้ลำคอชุ่มชื่นอยู่ตลอดเวลา และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอเพื่อให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ แค่นี้ก็หายแล้ว
10. การที่เราคิดว่าตัวเองมีสุขภาพดี แถมอายุยังน้อย ทำให้เราชะล่าใจในการดูแลรักษาสุขภาพ เวลาเกิดอะไรผิดปกติขึ้นกับร่างกายจะคิดว่าช่างมัน เดี๋ยวคงหายเอง ซึ่งไม่ถูกต้อง
11. เมื่อมีอาการเท้าและข้อเท้าบวมให้นั่งยองๆ ทุกวันๆ ละ 15 นาที แล้วขยับข้อเท้าไปข้างหน้าและข้างหลัง เพื่อช่วยให้โลหิตไหลเวียนได้ดีขึ้น หลังจากนั้นใช้แปรงที่ขนทำจากวัสดุธรรมชาติ แปรงผิวหนังเบาๆ เริ่มบริเวณฝ่าเท้าซึ่งเป็นศูนย์รวมของเส้นประสาททั่วร่างกาย แล้วค่อยๆ ปัดไล่ขึ้นมาที่ข้อเท้า น่อง ต้นขา ท้อง แขนไปจนสุดที่มือทั้งสองข้าง (ยกเว้นผู้ที่เป็นเบาหวาน เพราะเสี่ยงจะเกิดบาดแผล) จากนั้นอาบน้ำอุ่นแล้วตามด้วยน้ำเย็น จะช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น
12. ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานและรับประทานไข่มากกว่าอาทิตย์ละ 1 ครั้ง เสี่ยงเป็นโรคหัวใจมากขึ้น
13. ผู้ที่รับประทานไข่เป็นเวลา 8 อาทิตย์ลดน้ำหนักได้มากกว่าผู้ที่ไม่รับประทานถึง 65 เปอร์เซ็นต์ และรอบเอวลดลงเกือบสองเท่า เพราะผู้ที่รับประทานไข่รู้สึกอิ่มกว่าการรับประทานขนมปัง ทำให้รับประทานอาหารกลางวันและอาหารเย็นน้อยลง
14. การรับประทานอาหารไปดูหนังไปทำให้รับประทานอาหารมากขึ้นโดยไม่รู้ตัว แม้ว่าจะกินอิ่มมาแล้วหรือรสชาติของอาหารไม่ได้เรื่องเลยก็ตาม นอกจากนี้ไฟสลัวๆ ทำให้ผู้ที่รับประทานอาหารไม่ค่อยระวังตัว เพลิดเพลินเจริญอาหารไปเรื่อย
15. เสียงเพลงมีอิทธิพลต่ออารมณ์ของคนเรา ยิ่งดนตรีมีจังหวะเร็วเท่าไรก็ยิ่งกระตุ้นให้รับประทานอาหารมากขึ้นเท่านั้น
16. การดื่มน้ำ(เปล่า)เย็น 50 ออนซ์ (8 ออนซ์= 1 ถ้วย) จะช่วยเผาผลาญพลังงานเพิ่มขึ้นวันละ 50 แคลอรี เท่ากับช่วยให้น้ำหนักลดลงปีละ 5 ปอนด์หรือ 2.5 กิโลกรัม เพราะการดื่มน้ำเปล่าไม่ทำให้ร่างกายได้รับพลังงาน แต่ต้องใช้พลังงานในการเผาผลาญน้ำ ยิ่งไปกว่านั้นน้ำเย็นทำให้ร่างกายต้องใช้พลังงานเผาผลาญมากขึ้นอีก
17. การออกกำลังกายด้วยการยกน้ำหนักและพิลาทิส ควบคู่กันไปจะช่วยพัฒนาความแข็งแรงของปอดและหัวใจ รวมถึงความแข็งแรงและยืดหยุ่นของโครงสร้าง และการรับประทานอาหารมื้อย่อยๆ 5 มื้อต่อวัน โดยมื้อกลางวันจะเน้นอาหารประเภทโปรตีนเพียง 1 มื้อ นอกนั้นเน้นผักและผลไม้ จะทำให้มีพลังงานที่พอเหมาะในการใช้งาน และไม่ทิ้งไขมันส่วนเกินสะสม
18. ผู้ชายที่รับประทานมะเขือเทศ ซึ่งมีไลโคปีนสูงอย่างน้อยอาทิตย์ละ 10 ผลหรือมากกว่านั้น เสี่ยงเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากน้อยลง 45 เปอร์เซ็นต์ วิธีง่ายๆ ให้นำมะเขือเทศไปปั่นให้ละเอียดเติมน้ำมันมะกอกและนำไปปรุงสุก ความร้อนจะช่วยให้มะเขือเทศปล่อยสารไลโคปีนออกมามากขึ้น
19. รับประทานแอ๊ปเปิ้ลหนึ่งชิ้นหลังอาหาร ช่วยเพิ่มปริมาณน้ำลาย ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการลดแบคทีเรียในช่องปากและช่วยให้เหงือกแข็งแรง การรับประทานสับปะรดและมะละกอก่อนอาหารประมาณ 2-3 ชิ้น ดีต่อกระเพาะอาหารเพราะมีเอนไซน์ซึ่งช่วยย่อย จึงเท่ากับช่วยให้กระเพาะย่อยอาหารมื้อหลักที่ตามลงมาได้ง่ายขึ้น
20. หากไม่อยากมีกรดในกระเพาะมากเกินไป ควรลดปริมาณการดื่มน้ำผลไม้เข้มข้น อย่างเช่นมะนาว ส้ม ส้มโอ เกรฟฟรุ๊ต หรือน้ำมะเขือเทศสดปั่น หรือทำให้เจือจางด้วยการผสมน้ำเข้าไป
21. สำหรับหนุ่มเจ้าสำราญ ที่ชอบปาร์ตี้หามรุ่งหามค่ำ ก็สามารถฟื้นฟูร่างกายได้ด้วยการนอนหลับให้นานหน่อย อีกวิธีหนึ่งในการดูแลตัวเองคือมีแฟนเด็ก จะได้มีแรงกระตุ้นให้เราทำตัวเด็กตาม ต้องดูดีตลอดเวลา เพราะฉะนั้นอบายมุข การเที่ยวกลางคืนก็เป็นอันต้องงด
22. การเล่นเกมคอมพิวเตอร์โดยเฉพาะเกมส์ที่ต้องใช้สมาธิ ช่วยให้ระบบประสาททำงานเชื่อมต่อกันอย่างมีประสิทธิภาพ ป้องกันโรคอัลเซเมอร์ได้ เกมอื่นๆ เช่น ปริศนาอักษรไขว้ หรือเลือกเรียนดนตรี ก็ช่วยได้เช่นกัน
23. การใช้พลาสติกใส่อาหารหรือปิดอาหาร รวมถึงใส่จานชามพลาสติกในไมโครเวฟ เพราะความร้อนจะทำให้พลาสติกปนเปื้อนในอาหาร เพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเต้านม
24. ก่อนตั้งครรภ์ควรเตรียมตัวล่วงหน้าประมาณ 3 เดือน 1.ดูแลเรื่องอาหารการกิน เน้นโฟเลต แคลเซียม วิตามินต่างๆ ป้องกันอาการแพ้ท้องหรืออยากอาหารประหลาดๆ 2.ระวังเรื่องการรับประทานยาทุกชนิด อ่านฉลากให้ดี เพราะอาจทำร้ายลูกโดยไม่เจตนา 3.ทำใจให้สบาย คิดในแง่บวก 4. ออกกำลังกายที่เหมาะสม
25. ถ้ามื้อนั้นรับประทานเนื้อสัตว์ในปริมาณมาก ไม่ควรรับประทานผลไม้อีก เพราะกว่าเนื้อจะย่อยหมดต้องใช้เวลานาน ทำให้ผลไม้ที่ย่อยเสร็จไปเรียบร้อยแล้วถูกกักอยู่ในกระเพาะ เกิดกรดในกระเพาะอาหารได้

วันจันทร์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2553

วันอาทิตย์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2553

วิธีรักษาคอมพิวเตอร์อย่างง่ายๆ
1. Scan Disk รักษา Bad Sector

หลายคนอาจจะสงสัยหรืออาจจะคุ้นหรืออาจจะไม่รู้จักเจ้ าสแกนดิสก์เลยนะครับเราจะอธิบายกันก่อน Scan Disk
ก็คือตัวรักษาย่อยที่มีอยู่ทุกวินโดวตั้งแต่ Windows 95 มาจนถึง Windows Vista เลยนะครับซึ่งนับว่าเป็นความ
ยาวนานของโปรแกรม Scan Disk ที่ฝังมาใน Windows ต่างๆ แต่ละเวอร์ชั่นเลยทีเดียว Scan Disk เป็นโปร-
แกรมรักษาฮาร์ดดิสก์นะครับแก้ไขไฟล์ต่างๆ ที่เสียให้กลับมาดีได้เป็นบางไฟล์รักษา Bad Sector ของฮาร์ดดิสก์

วิธีการรักษาทำได้ดังนี้

1. เข้าไปที่ My Computer
2. คลิ๊กขวาที่ไดรว์ที่เราต้องการเลือกจะ Scan
3. สังเกตุแถบด้านบนให้เลือกที่แถบ Tools
4. จะพบว่ามีเมนูที่ชื่อว่า Check Now ... คลิ๊กเข้าไป
5. จะมีคำสั่งให้ติ๊กถูกสองช่องคือ
5.1 Scan รักษาไฟล์ที่เสียบางไฟล์ (ไม่สามารถใช้ได้กับไดรว์ที่ลง Windows)
5.2 Scan รักษา Bad Sector ของฮาร์ดดิสก์
เลือกแล้วก็กด Scan Now ...

*หมายเหตุ : ไม่แนะนำให้ทำทั้งสองอย่างในการสแกนครั้งเดียว และ ตอนสแกนห้ามเปิดโปรแกรมใดๆ ทั้งสิ้น

2. Defragment Harddisk
หลายคนอาจจะงงว่าอะไรคือ Defragment Defragment คือการจัดเรียงข้อมูลที่ระเกะระกะของ Harddisk ที่กระจัด
กระจายอย่างไม่เป็นระเบียบสามารถจัดให้เป็นระเบียบได ้วิธีนี้จะทำให้เครื่องของเราเร็วแรงขึ้นและรักษาอาย ุการใช้งาน
ของฮาร์ดดิสก์ได้ จัดเรียงข้อมูลบางคนอาจจะเข้าใจผิดว่า เอ้ย! เดี๋ยวมันอาจจะย้ายไฟล์สำคัญของเราก็ได้อย่าทำดีกว่า
อย่าเข้าใจผิดนะครับมันจะไม่ย้ายไฟล์สำคัญของคุณแต่อ ย่างใดดังนั้นไม่ต้องห่วงเรื่องนี้ได้เลย ...

วิธีรักษาสามารถทำได้ดังนี้

1. เข้าไปที่ My Computer
2. Click ขวาที่ Drive ที่เราต้องการ Defragment
3. สังเกตุด้านบนจะพบแถบ Tools คลิ๊กเข้าไป ...
4. ดูบรรทัดที่สองจะเห็นเมนูที่ชื่อว่า Defragment Now ... คลิ๊กเข้าไป
5. เลือกไดรว์ที่ต้องการทำแล้วกด Defragment
6. รอจนการทำงานจะเสร็จสิ้น

*หมายเหตุ : ไม่ควรเปิดโปรแกรมใดๆ ในระหว่างสแกนอย่าปิด หรือ Restart คอมฯ ระหว่างการสแกนมิฉะนั้นคอมฯ คุณอาจจะเสียได้


3. ลบขยะที่แสนจะไร้สาระรกเปล่า ๆ ออกไป
ขยะในคอมพิวเตอร์เรามิใช่หมายถึงไฟล์ที่คุณลบแล้วอยู ่ใน Recycle Bin อย่างเดียวไฟล์ขยะยังมาจากไฟล์ที่เป็นขยะบนฮาร์ดดิสก ์
ดังนั้นเราควรจะลบมันออกไปซะ

วิธีการรักษาสามารถทำได้ดังนี้

1. ไปที่เมนู Start ด้านล่าง Toolbar
2. ไปที่ All programs ...
3. Accessories ...
4. System Tools ...
5. แล้วคลิ๊กที่ Disk Cleanup
6. เลือกไดรว์ที่ต้องการลบขยะ
7. กด Ok
8. รอจนจบการลบ ...

*หมายเหตุ : ไม่ควรใช้โปรแกรมที่มีการ Save งาน หรือ Internet Explorer


4. Scan Virus ให้สิ้นซาก
Virus เป็นโปรแกรมเล็กที่ชั่วร้ายสามารถเติบโตจนกลืนกิน Windows ทั้งหมดได้เลย Virus จึงพัฒนาตัวเองได้ตลอด
เราจะไม่รู้เลยนะครับว่า Virus เข้ามายังไงส่วนใหญ่ไวรัสจะมาจาก Flash Drive , USB กล้องดิจิตอล , Card Reader
อุปกรณ์ทุกชนิดมีการบันทึกข้อมูลนะครับทำให้เราต้องร ะวังเป็นพิเศษเวลาทำการแลกเปลี่ยนข้อมูลวิธีการรักษา ให้เราไป
หาโปรแกรมสแกนไวรัสที่เราคิดว่าไว้ใจได้มาสแกนมันซะแ ต่ที่ผมแนะนำจะมีอยู่ 2 โปรแกรมนะครับ

1. NOD32 Antivirus
2. Kaspersky Antivirus

สองโปรแกรมนี้จะทำให้ Virus ของคุณหายไปได้ง่ายๆ เลยนะครับไม่ต้องเป็นห่วง + กับการป้องกันอย่างสุดยอดที่ไวรัส
ไม่กล้าเข้าใกล้เลยแม้แต่นิดเดียว


5. Spyware ออกไปซะเหอะ
หลังจากที่เราเอา virus ออกไปได้แล้วอีกตัวนึงที่เป็นญาติกับ Virus ซึ่งก็คือ "Spyware" Spyware เป็นโปรแกรมตัวนึง
ที่มีการทำงานคล้ายๆ ไวรัสแต่ไม่ได้ซะทั้งหมดสปายแวร์จะนำโปรแกรมที่น่ารำ คาญอย่างเช่น Banner โฆษณาโปรแกรม
ที่เด้งออกเวลาเราไม่ต้องใช้พวกนี้คือ Spyware วิธีกำจัดมันให้เราไปโหลด หรือ ซื้อโปรแกรมสแกน Spyware ยี่ห้อต่างๆ
ที่เราเชื่อถือที่ผมแนะนำคือ

1. Ad - Aware 2007
2. SpyDoctor

สองโปรแกรมนี้จะเป็นโล่กำบังชั้นดีที่ Spyware ไม่กล้าเข้าใกล้คอมพิวเตอร์ของท่านเลย

วันเสาร์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2553


"การเรียนด้วยความเข้าใจนั้นดีที่สุด"

แต่ในบางโอกาสเราก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการจำไปได้ เพราะฉะนั้นวิธีที่จะพูดถึงต่อไปนี้อาจจะช่วยน้องๆได้

วิธีแรกนั้น ขอเรียกว่า "โยงไปหาสิ่งที่จำง่ายและติดตากว่า"

วิธีนี้ก็คือพยายามโยงสิ่งที่เราจะจำให้ไปเกี่ยวข้องกับสิ่งที่ง่าย ที่เราคุ้นเคยกว่านั่นเอง ขอยกตัวอย่าง ในวิชาชีวะวิทยา สมมติว่าผมอยากจะจำว่า ต่อม "ไฮโปทารามัส" ทำหน้าที่กระตุ้นการอยากอาหาร

ง่ายเลยครับงานนี้ เพราะชื่อ "ไอโปทารามัส" เนี่ย ชื่อคล้ายๆกับ "ฮิปโป" มั้ยครับ และเราก็รู้อยู่แล้วว่า ฮิปโป ของเราเนี่ยตัวไม่ใช่เล็กๆ แสดงว่ามันต้องกินเก่ง เพราะฉะนั้นต่อม "ไฮโปทารามัส" เนี่ยก็ต้องเกี่ยวกับการกินแน่นอน ซึ่งก็คือกระตุ้นการกิน

อีกตัวอย่างนึงก็เช่น ภาษาอังกฤษคำว่า "sue" เนี่ย แปลว่าฟ้องร้อง เราจะจำว่าอยากไร

อันนี้ก็ไม่ยากครับ เพราะถ้าสังเกตดูแล้วเนี่ยการออกเสียงคำว่า "sue" เนี่ยคล้ายกับคำว่า "สู้" ของไทยมั้ยครับ แต่การสู้ในที่นี้เนี่ยต้องสู้กันในศาล เพราะฉะนั้นก็หมายความว่า ฟ้องร้อง นั่นเอง
(สำหรับการท่องศัพท์ภาษาอังกฤษเนี่ย ขอแนะนำให้ท่องคำที่มีความหมายเหมือนกันไว้ด้วยกัน หรือท่องเป็นกลุ่มที่มีความหมายเหมือนกัน)


อีกวิธีนึงที่อยากจะแนะนำก็คือ "ร้องออกมาเป็นเพลง" ถ้าอยากจะจำอะไรซักอย่างนึงยาวๆ ลองใส่ทำนองเข้าไปแล้วลองร้องออกมาสิครับ นอกจากจะสนุกสนานแล้ว อาจจะจำได้ดีขึ้นด้วย

ตัวอย่างที่ดีสำหรับวิธีนี้ก็คือ ถ้าผมถามว่า กรุงเทพมหานคร มีชื่อเต็มว่าอะไร หลายคนคงตอบได้ ซึ่งก็ต้องขอบคุณ พี่ป้อม อัสนี โชติกุลของเรา นำทำนองมาใส่เป็นเพลง ทำให้เราสามารถจำชื่อของกรุงเทพกันได้อย่างแม่นยำ ใครที่เป็นมือใหม่หัดขับ อาจจะเริ่มต้นด้วยทำนองเพลงเบสิก เช่น ลอยกระทง ถ้าต้องการได้บรรยากาศทางล้านนา ก็อาจจะใส่ทำนองเพลง ไว้ใจได้กา เข้าไป หรือถ้าต้องการวัยรุ่นหน่อยอาจจะใส่พวกเพลงแร็ปเข้าไป(แต่ผมไม่ค่อยแนะนำเพราะเท่าที่เคยได้ยินเพลงแร็ปมาก็ฟังไม่เคยออกสักที) ก็ลองดูเอาครับแล้วแต่ถนัดและที่ชอบ

วันศุกร์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

เทคโนโลยีสารสนเทศ

เทคโนโลยีสารสนเทศ หรือ ไอที (IT ย่อจาก information technology) หมายถึงเทคโนโลยีสำหรับการประมวลผลสารสนเทศ ซึ่งครอบคลุมถึงการรับ-ส่ง การแปลง การจัดเก็บ การประมวลผล และการค้นคืนสารสนเทศ ในการประยุกต์ การบริการ และพื้นฐานทางเทคโนโลยี สามารถแบ่งกลุ่มย่อยเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ คอมพิวเตอร์, การสื่อสาร และข้อมูลแบบมัลติมีเดีย ซึ่งในแต่ละกลุ่มนี้ยังแบ่งเป็นกลุ่มย่อยๆ ได้อีกมากมาย องค์ประกอบทั้ง 3 ส่วนนี้ ยังต้องอาศัยการทำงานร่วมกัน ยกตัวอย่างเช่น เครื่องเซิร์ฟเวอร์คอมพิวเตอร์ (คอมพิวเตอร์) เป็นองค์ประกอบสำคัญของระบบเครือข่าย (การสื่อสาร) โดยมีการส่งข้อมูลต่างๆ ไปยังเครื่องลูก (ข้อมูลแบบมัลติมีเดีย)
แต่ในบางครั้งจะมีการใช้ชื่อว่า เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (information and communications technology ย่อว่า ICT)


เอ็นบีเอ (NBA) ย่อมาจาก National Basketball Association ซึ่งเป็นชื่อของลีกบาสเกตบอลอาชีพในอเมริกาเหนือ ซึ่งรวมประเทศสหรัฐอเมริกาและแคนาดา มีนักกีฬาบาสเก็ตบอลชั้นนำของโลกเล่นอยู่ในเอ็นบีเอนี้เป็นจำนวนมาก ซึ่งทำให้มาตรฐานระดับการแข่งขันนั้นถือว่าอยู่ในระดับสูง สัญลักษณ์ประจำเอ็นบีเอทางด้านขวานั้น เป็นภาพเงาของ เจอร์รี่ เวสต์ ซึ่งเคยเป็นผู้จัดการทั่วไปของทีมเลเกอร์ และทีมเมมฟิส กริซลีส์
NBA ก่อตั้งขึ้นที่
นครนิวยอร์ก ในวันที่ 6 มิถุนายน ค.ศ. 1946 ในชื่อ Basketball Association of America (BAA) ซึ่งต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น National Basketball Association ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงในปี ค.ศ. 1949 หลังจากการรวมตัวกับทีมจาก National Basketball League (NBL)
เอ็นบีเอนั้นเป็นลีกกีฬาอาชีพแรก ที่มีโค้ชหลักเป็นคนผิวดำ ในปี ค.ศ. 1966 และก็ยังเป็นลีกแรก ที่มีผู้จัดการทั่วไปเป็นคนผิวดำ ในปี ค.ศ. 1972 นอกจากนี้แล้ว ยังเป็นลีกแรก ที่มีเจ้าของทีมเป็นคนผิวดำ ในปี ค.ศ. 2002